ภาพยนตร์ ที่ได้รับรางวัล OSCARS MOVIES เป็นอีกรางวัล Academy Award ที่คนทำภาพยนตร์ล้วนอยากได้มาครอบครอง เป็นการรางวัลที่จะการันตีคุณภาพของหนังที่ผลิตออกมาได้ถ่ายทอดให้คนดู ชนิดที่ดูแล้วต้องไม่ผิดหวัง รวมมาให้แล้วครบทุกแนวทั้งมิตรภาพ การผจญภัย ไปจนถึงแอ็คชั่นสุดมัน คุณสามารถหาเวลาว่างในวันสบายๆ ไม่ต้องไปนั่งในโรงให้วุ่นวาย ชิลล์ๆ อยู่บ้านเตรียมป๊อปคอร์นให้พร้อมไปเลย แล้วมาเก็บลิสต์นี้ให้ครบไปด้วยกันเลย จะมีเรื่องไหนมาก ไปดูกันเลย
Parasite : ชนชั้นปรสิต
ช่วงหลายปีหลังมานี้วงการภาพยนตร์ของเกาหลีใต้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด มีหนังดีๆ ออกมาให้เราดูมากมาย และกับความสำเร็จครั้งใหม่นี้กับ Parasite ด้วยบทที่โดดเด่นเล่าเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เหมือนจะหนักและดูยากได้อย่างไหลลื่นและกลมกล่อม สมทบด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากดาราชั้นนำของวงการ ส่งให้ Parasite คว้าออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและเป็นเรื่องแรกที่ใช้ภาษาต่างประเทศมาครองได้ ใครชอบดูหนังไม่เครียดมาก แนะนำว่าต้องไปหาดูเพราะทั้งเรื่องสนุกและเดาทางไม่ถูกจริงๆ สุดสัปดาห์นี้อยากเริ่มเก็บออสการ์ เริ่มจากเรื่องนี้ได้เลย
Green book : กรีนบุ๊ค
จากเรื่องจริงของนักเปียโนชื่อดังที่มาในมาดชายหนุ่มผิวสีเรียบหรู ตัดสินใจออกผจญภัยเดินสายเล่นคอนเสิร์ตทั่วประเทศ พร้อมคู่หูคนขับรถต่างขั้ว ผิวขาวแถมยังนิสัยก้าวร้าวแบบสุดโต่ง ความต่างของคู่นี้ที่ดูเผินๆ ใครก็ว่าทริปนี้ไปไม่รอด แต่นั่นล่ะคือความสนุกที่เกิดขึ้นตลอดการเดินทาง ที่ต่างคนต่างหยิบยื่นความช่วยเหลือและความรู้ให้ต่อกัน Green Book ได้พาคนดูไปสำรวจโลกอีกมุมที่เราเคยได้ยินแต่ไม่เคยเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง เป็นอีกหนังฟีลกู๊ดที่ดูจบแล้วอบอุ่นหัวใจ จนต้องยกออสการ์ให้ไปเลยดูหนังออนไลน์ เรื่องนี้ได้กับเรา
The Shape Of Water : บทพิศวาทของผู้แปลกแยก
หนังโรแมนติกแฟนตาซีที่เล่าเรื่องความรักในแบบที่ไม่มีใครเหมือน ของสาวใบ้และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ถ้าใครได้ดูคงมีคำถามในหัวตลอดทั้งเรื่องว่าตกลงแล้วสัตว์ตัวนั้นมันคือตัวอะไรกันแน่ แต่คงไม่มีใครสงสัยว่า ความรักที่สื่อสารกันด้วยหัวใจของสาวใบ้ (เอไลซ่า) ที่ทำงานเป็นภารโรงในศูนย์วิจัยของรัฐบาลกับสิ่งมีชีวิตที่ถูกจับมาทดลองนั้นเป็นความโรแมนติกที่หาดูได้ยากเหลือเกิน Production Design ที่เนรมิตทุกฉากให้เหมือนได้ย้อนกับไปยุค 60s จริงๆ ไดอะล็อกที่เล่าแบบซื่อๆ แต่อิมแพคและพาคนดูอินไปกับทุกซีนในเรื่อง ไม่แปลกเลยที่ The Shape Of Water จะคว้าออสการ์ในปีนั้นไปได้ถึง 4 รางวัล
Moonlight มูนไลท์ : คนผิวสีภายใต้แสงจันทร์
ผลงานโรแมนติกอาร์ตจากผู้กำกับ Barry Jenkins กับโมเมนต์ที่หลายคนคงจำกันได้ดีกับเหตุการณ์ปาดหน้าขึ้นรับรางวัลในวินาทีสุดท้ายบนเวที Moonlight พูดถึงชีวิตของของเด็กผิวสี Chiron ที่เติบโตมาในย่านเสื่อมโทรมของไมอามี่ ผ่าน 3 ช่วงเวลาตั้งแต่เด็กจนโต หนังพูดถึงสังคมรอบข้างที่มีส่วนหล่อหลอมอนาคตกับหลากหลายมุมมองชวนให้คิดทั้งเรื่องความรัก รสนิยมทางเพศ และชีวิตสุดดราม่า ในอารมณ์หม่นๆ ตลอดทั้งเรื่อง ใครเป็นสายดราม่าชอบดูงานภาพสวยๆ แนะนำเรื่องนี้เลย
Spotlight : คนข่าวคลั่ง
สร้างจากเรื่องจริงอันโด่งดังของหนังสือพิมพ์ Boston Globe เมื่อ Spotlight ทีมข่าวมือดีของสำนักพิมพ์หยิบเอาคดีฉาวบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศเด็กเมื่อปี 1993 ขึ้นมาทำใหม่อีกครั้ง เล่าเรื่องการสืบสวนเข้มข้นของนักข่าวในมาดนักสืบที่เก่งกาจ การต่อสู้ทางกฎหมายที่เชือดเฉือนกันทุกนาที เดินเรื่องได้รวดเร็ว มาพร้อมตัวละครมากมาย บทที่เก็บทุกดีเทลเขียนได้ละเอียดยิบ แนะนำให้ดูไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องย้อนกลับ หนังจะค่อยๆ พาให้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ดูจบแล้วจะรู้เลยว่าทำไม Spotlight ถึงได้ออสการ์ไปครอง
Birdman : มายาดาว
ดาราตกอับที่ฝันอยากก้าวขึ้นมายืนบนจุดสูงสุดอีกครั้ง สไตล์ของ Birdman เป็นดราม่าเชิงเสียดสีที่เล่าอย่างละเมียดละไม ไม่เครียดดูเพลิน พร้อมฉากสวยๆ โชว์เทคนิค Long Take ที่น่าจดจำตลอดเรื่อง ตัวบทที่คิดและซักซ้อมกันอย่างดี ทำให้เราได้ดูหนังความยาว 2 ชั่วโมง ที่มีเพียงแค่ 16 คัทเท่านั้น ในเรื่องเรายังได้ชมฝีมือของนักแสดงชั้นนำที่ขนกันมาเต็มจอ ยิ่งควบกับดนตรีประกอบเจ๋งๆ ที่คอยซัพพอร์ตทุกฉากให้น่าทึ่งด้วยแล้ว ทำให้ Birdman เป็นอีกหนึ่งออสการ์ที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ
12 Years A Slave : ปลดแอก คนย่ำคน
Racist คืออีกหนึ่งหนังแนวโปรดของเวทีออสการ์ที่มักจะได้รางวัลอยู่เสมอ จากเรื่องจริงในยุค 1840 ที่อเมริกายังคงมีการค้าทาสอยู่เป็นปกติ โซโลมอน นอร์ธอัพ ชายผิวสีได้ถูกลักพาตัวเปลี่ยนสถานะจากชนเสรีให้กลายเป็นทาสผิวสีในชั่วข้ามคืน ความสนุกคือหนังไม่ได้ยัดเยียดให้ร้ายตัวละครนายทาสแบบโต้งๆ แต่เล่าให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของทาสผิวสีได้อย่างสมจริง พาเราอินและเอาใจช่วยให้รอดพ้นจากมรสุมโชคชะตาที่เหมือนโดนแกล้งของโซโลมอนตลอดเรื่อง